ประวัติความเป็นมา

   สบู่เหลวข้าวหอมมะลิ เกิดจากแนวความคิดที่ว่าน่าจะมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย เนื่องจากแรงบันดาลใจหลายอย่าง เช่น สืบเนื่องมาจากได้ไปร่วมแสดงงานสินค้าประเภทของขวัญและของตกแต่งบ้านกับเพื่อนที่ประเทศอเมริกา เมื่อปี 2543 และได้มีโอกาสได้เดินดูสินค้าต่างๆที่มาจากหลายแห่งทั่วโลก แต่เมื่อสอบถามว่าสินค้าเหล่านั้นมาจากไหน ผู้ขายซึ่งเป็นต่างชาติกลับตอบว่าเป็นของอินโดนีเซีย ไม่ก็บาหลี และบางทีก็ตอบว่าไม่รู้บ้าง ทั้งๆที่ดูออกว่ามาจากสวนจตุจักรหรือสีลม ซึ่งผู้ขายไม่ได้บอกเลยว่ามาจากเมืองไทย นั่นอาจเป็นเพราะว่าไม่ได้มีความพิเศษหรือแตกต่างไปจากสินค้าทั่วๆ

   จึงทำให้คิดอยู่เสมอว่า สักวันหนึ่งจะต้องทำสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศให้ได้

   เมื่อกลับมาจากงานแสดงสินค้าที่อเมริกาแล้ว ก็ได้พยายามหาสินค้าที่จะใช้เป็นตัวแทนของประเทศไทยให้ได้ และช่วงนั้นเองกระแสการใช้สมุนไพรกำลังมาแรง พร้อมกับกรณีพิพาทเรื่องลิขสิทธิ์ข้าวหอมมะลิกับประเทศอเมริกา จึงทำให้เกิดความอยากรู้ว่าทำไมอเมริกาจึงอยากได้เป็นเจ้าของข้าวหอมมะลิมากนัก ทั้งๆที่ข้าวมีตั้งหลายพันธุ์

   จึงได้เข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับข้าวว่าที่แท้จริงแล้วข้าวมีประโยชน์อย่างอื่นอีกหรือไม่ ก็พบว่านอกจากจะใช้ข้าวมารับประทานเป็นอาหารแล้ว ยังใช้ในการบำรุงเรื่องความสวยความงามได้อีกด้วย เนื่องจากสมัยก่อนไม่มีสบู่หรือสารชำระล้างเหมือนในปัจจุบัน ชาวเอเชียจะใช้น้ำซาวข้าวมาล้างทำความสะอาดผิว พร้อมบำรุงผิวไปในเวลาเดียวกัน  ทำให้เกิดความคิดว่าน่าจะทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ทำจากข้าว

   แต่ข้าวก็มีหลายสายพันธุ์ จึงต้องเลือกว่าจะใช้ข้าวพันธุ์อะไร ก็มาจบที่ข้าวหอมมะลิ เพราะว่า ประการแรกเป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย ประการที่สองกระแสการใช้กลิ่นธรรมชาติบำบัดก็กำลังเป็นที่นิยมและในตัวของข้าวหอมมะลิก็มีกลิ่นหอมในตัวเองอยู่แล้วทำให้มีความสมบูรณ์อยู่ในตัวเอง แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำออกมาได้เลยในทันที ก็เพราะว่ายังไม่เคยมีใครคิดที่จะทำมาก่อนจึงต้องมีการศึกษาหาข้อมูล ค้นคว้าและวิจัยต่างๆก็ไม่พบวิธีที่จะทำตามแนวความคิดที่ตั้งไว้ อีกประการหนึ่งเมื่อสอบถามผู้รู้ต่างๆ ก็ได้คำตอบเดียวกันว่าเป็นไปได้ยากมาก แรกๆก็พยายามลองหลายวิธี ก็ไม่ประสบความสำเร็จจนกระทั่งเกือบจะล้มเลิกความคิดนั้น

   ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่และไม่ย่อท้อ คิดเสียว่านี่แหละคือโอกาส จึงไม่ยอมล้มเลิกความคิดนี้และได้ทดลองปรับปรุงวิธีการต่างๆ จนประสบความสำเร็จในปี 2545 และได้รับรางวัลจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ประเภทสบู่เหลวข้าวหอมมะลิ เจ้าแรกของโลกและเป็นผู้ถือสิทธิแต่เพียงผู้เดียว จากนั้นจึงได้เริ่มดำเนินการธุรกิจเครื่องสำอางจากธรรมชาติอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่อ     " HOVFS " (ฮอพส์) นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

 แนวคิดในการสร้างสรรค์งาน

   ปัจจุบันนี้ การหันมาใส่ใจในสุขภาพของตนเอง ทำให้สมุนไพรเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้น กระแสการต่อต้านการใช้สารเคมีและความสนใจในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น ดังนั้นความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติจึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ในยุคนี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  แต่ในปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ก็ยังทำมาจากสารเคมีสังเคราะห์และมักก่อให้เกิดปัญหาการแพ้หรือระคายเคืองต่อผิวหนัง 

   ย้อนยุคไปในสมัยโบราณ คนไทยบรรพบุรุษรุ่นทวด ปู่ ย่า ตา ยาย จะใช้น้ำซาวข้าวมาซักผ้า ล้างถ้วยชาม และนิยมนำมาล้างหน้าแก้สิวฝ้า รักษาได้หลายอย่าง ทั้งหน้าแห้งหน้ามันจนถึงนำไปสระผมให้เงางาม ขจัดรังแค แก้คันศีรษะ ด้วยเห็นถึงประโยชน์ของข้าวจึงดังนั้นจึงเกิดแนวความคิดที่จะใช้ข้าวซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดีมาเป็นองค์ประกอบหลักในการคิดค้นการทำผลิตภัณฑ์ ที่เป็นสารชำระล้างจากธรรมชาติที่พร้อมตอบสนองความต้องการได้อย่างแท้จริง

ข้าวหอมมะลิ

   เป็นที่รู้จักกันในนามของข้าวหอมทั้งนี้เนื่องจากมีกลิ่นหอมทำให้มีผลในด้านการบำบัดทางกลิ่น (Aromatherapy) นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ไวตามิน โดยเฉพาะไวตามินอี ซึ่งจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้ผิวอ่อนนุ่ม ช่วยในการฟื้นฟูสภาพผิว ลดการเสื่อมสภาพของผิวหนัง(Anti-oxidant)ชะลอการเกิดริ้วรอย และลดการเกิดสิวฝ้า

ลักษณะของสิ่งประดิษฐ์

   เพื่อการทำความสะอาดผิวที่ทำจากธรรมชาติ 100 %  จึงได้ทำการคัดเลือกส่วนผสมที่มีคุณภาพดีที่สุด รวมทั้งน้ำมันหอมระเหย เพื่อให้ได้คุณสมบัติเฉพาะตัว การผลิตสบู่ข้าวหอมมะลินี้ใช้กรรมวิธีที่เรียกว่า ขบวนการเย็น (Cold Process) ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติดั้งเดิมที่สามารถรักษาคุณภาพของสบู่ได้มากที่สุด

   ส่วนผสมหลักประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิชั้น1 ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ไวตามิน สารที่ให้ความชุ่มชื้น และสารลดริ้วรอย(Antioxidant)  สารสกัดจากข้าวหอมมะลิ น้ำมันมะกอก น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันรำข้าว น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันเมล็ดองุ่น โปตัสเซียมไฮดรอกไซด์(KOH) และน้ำมันหอมระเหย เท่านั้น ไม่มีส่วนผสมของหัวเชื้อสบู่ (Soap Base) เหมือนกับสบู่เหลวทั่วไปในท้องตลาด

   เนื่องด้วยส่วนผสมหลักที่เป็นน้ำมัน จึงมีความสามารถในการชำระล้างผิวได้เป็นอย่างดี และสามารถชำระล้างได้อย่างหมดจด เพียงแค่ใช้น้ำเท่านั้น โดยที่ไม่มีคราบน้ำมันเหลืออยู่ อันเป็นคุณสมบัติของสารสกัดจากข้าวหอมมะลิเท่านั้น อีกทั้งยังมีกลีเซอรีน(Glycerin)ธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองในขบวนการทำสบู่ ช่วยในการปกป้องความชุ่มชื้นแก่ผิว และด้วยส่วนผสมของสารสกัดข้าวหอมมะลิและน้ำมันจากธรรมชาตินี้เอง จะช่วยในการปกป้องจากการเสื่อมสภาพของผิวหนัง คืนความชุ่มชื้นให้กับผิวและบรรเทาการเกิดริ้วรอย ลดความแห้งตึง สู่ผิวสะอาดใส สดชื่น นุ่มเนียน เบาสบาย

   อีกทั้งสารสกัดข้าวหอมละลิจะช่วยเร่งขบวนการขจัดเซลเก่าที่เสื่อมสภาพและสิ่งสกปรกตกค้างให้หลุดออกไป กระตุ้นให้สร้างเซลล์ใหม่ ช่วยให้สิวลดลง ทำให้ผิวพรรณสดใส มีชีวิตชีวา และไม่มีสารตกค้างคงเหลืออยู่ อันเป็นสารเหตุให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองเหมือนสบู่ที่ผลิตในเชิงอุตสาหกรรมทั่วไป พร้อมกันนี้น้ำมันในเม็ดข้าวหอมมะลิยังอุดมไปด้วยไวตามิน E ซึ่งจะช่วยในการบำรุงและคืนความชุ่มชื้นแก่ผิว ขณะที่กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยจากดอกมะลิยังช่วยในการผ่อนคลายความเครียดและเหน็ดเหนื่อยได้ตลอดทั้งวัน รวมทั้งเนื้อเจลที่อ่อนละมุน ช่วยให้ผิวขาว นุ่มนวล สดใส แลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ